ราชบุรี มีมากกว่าตลาดน้ำ

2 วัน 1 คืน เที่ยวไม่หมดน่ะ………

จ.ราชบุรี เมื่อเอ่ยชื่อ ใครๆก็จะนึกถึง ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำอัมพวา

ตามลุงกับป้ามา วันนี้ลุงกับป้าจะพาไปเที่ยว 

คาราวานครั้งที่ 3 กับ สทน “เที่ยวติดมันส์ ณ ราชบุรี”

นำโดยคุณป้าสีนวลชวนชื่น พาหนะประจำลุงกับป้า

รับประกันความมันส์ เมื่อไปกับ สทน “สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ“

พร้อมแล้วถ่ายรูปหมู่ก่อนออกตัวกันหน่อย

งานนี้ต้องมีบรีฟกันนิด เพื่อความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน

ถ่ายไว้ให้เป็นหลักประกันว่าป้าไปคันนี้น่ะค่ะ 555+++

1. ถึงแล้วค่ะ จุดจอดแรกของจังหวัดราชบุรี  “วัดโชติทายการาม”

สร้างขึ้นด้วยศรัทธาของคุณปู่มั่ง มั่งมี คหบดีผู้มีใจกุศล ถวายที่ดินของตนเพื่อสร้างวัด กับทั้งบอกบุญชาวบ้านรวมเงินได้ 1 ชั่งเศษ ก่อสร้างกุฏิ 1 หลัง เมื่อ พ.ศ. 2417 แล้วนิมนต์พระภิกษุช่วง จากวัดบางคนฑีใน มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก

เมื่อคณะคาราวานของพวกเราเดินทางถึง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี นำโดย คุณ สรียา บุญมาก ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานราชบุรี หรือพี่คิตที่น่ารักและใจดีของพวกเรา  ได้ให้เกียร์ติมาต้อนรับและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในจังหวัดราชบุรี

“ทำไมต้องมาวัดโชติฯ” ??? ……..”ก็มาเพื่อล่องเรือตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น ณ.ดำเนินสะดวก งัย” เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมพ.ศ. 2447 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) เสด็จประพาสต้นโดยทางเรือ ทรงให้นำเรือพระที่นั่งเทียบหน้าวัด ตรงศาลาการเปรียญ หลวงพ่อช่วงได้ทราบจึงนำพระลูกวัด 5 รูป ลงมาสวดชัยมงคลคาถาต้อนรับ พระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยเป็นยิ่งนัก ทรงถวายปัจจัยเพื่อบูรณะวัด 10 ชั่ง ถวายพระรูปละ 1 ตำลึง และแต่งตั้งพระอธิการช่วง เป็นพระครูวรปรีชาวิหารกิจ ณ ศาลาท่าน้ำของวัดโชติฯ และโปรดเกล้าฯ ให้ทหารมหาดเล็กจัดที่ประทับบนศาลา ทรงให้พนักงานเครื่องต้นประกอบพระกระยาหารสำหรับเสวย ที่ศาลาท่าน้ำศาลาการเปรียญหลังปัจจุบัน

มาถึงวัด คณะเราก็ไม่พลาดที่จะเข้ามากราบพระประธานของวัด พร้อมร่วมถวายสังฆทาน เพื่อความสุขและเอาฤกษ์เอาชัยในการเดินทางของเราในทริปนี้

จากนั้นก็ได้เวลาพักรถ เดินทางโดยเรือ เพื่อตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น ณ.ดำเนินสะดวก พ.ศ. 2447 งัย……..

.

เรือทุกลำของพวกเราในวันนี้มีกระชอนยักษ์ และถุงดำ เพื่อคอยเก็บขยะในคลองตามทางที่พวกเราไปด้วยน่ะ แต่อย่าเอะอะไป เรือป้าลำสุดท้ายไม่ได้ขยะเลย พวกเก็บเรียบหมดแล้ว 555+++

จอดแรกของการล่องเรือ

2. ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น  ต้องที่นี่ค่ะ  “บ้านเจ็กฮวด”

“เจ็กฮวด” ทำไมท่านได้เป็นมหาดเล็ก ในตอนบ่ายวันนั้น เวลาประมาณบ่าย 3 โมงเศษ พระองค์พร้อมด้วยขุนนางผู้ใหญ่ 2 ท่าน ซึ่งมีสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จทรงเรือมาดพาย(แบบเรือมาดกระสวย) พายไปตามลำพัง โดยไม่มีผู้ติดตาม ทั้งนี้ เพราะพระองค์อยากจะทราบความเป็นอยู่สารทุกข์ของราษฎรของพระองค์ ทรงทอดพระเนตรเห็นว่า น้ำหลากมาท่วมมาก มองไม่เห็นพื้นดิน เป็นน้ำขาวเวิ้งว้างไปหมดทุกสารทิศ ผลไม้ในนาไร่และสวนถูกน้ำท่วมจนหมดสิ้น พระองค์ได้ทรงเสด็จเข้าไปทางคลองลัดราชบุรี(คลองลัดพลี) ขณะนั้นบ้านเรือนราษฎรไม่มี วัดราษฎร์เจริญธรรมยังไม่ได้สร้าง มีศาลเจ้าเล็กๆ อยู่หลังหนึ่ง แล้วทรงเลี้ยวเรือพระที่นั่งไปทางซ้ายมือผ่านบ้านราษฎร ห่างๆ จะมีสักหลังหนี่งเห็นเงียบไม่มีคนอยู่จึงมิได้เสด็จแวะเยี่ยม เมื่อเสด็จมาถึงบ้านนางผึ้ง แซ่เล้า ทอดพระเนตรเห็นเจ้าของบ้านนำเอา หอม กระเทียม ไปตากบนหลังคาเรือน พอเห็นเรือคนแปลกหน้าเข้าใจว่าเป็นพวกขุนนาง ก็ร้องเชื้อเชิญให้แวะที่บ้าน พระองค์จึงเสด็จขึ้นบ้านของนางผึ้ง ขณะนั้นนางผึ้งหุงข้าวสุกพอดี จึงเรียกลูกชาย คือ เจ๊กฮวด ซึ่งขณะนั้นอายุประมาณ 20 ปีเศษ ให้ยกกระบะใส่กับข้าว ยกหม้อข้าว แล้วร้องเชิญให้พระองค์เสวย ในขณะที่พระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 กำลังเสวยอยู่นั้น เจ๊กฮวดซึ่งมานั่งยองๆ ดูพระเจ้าอยู่หัวแล้วก็หันไปดูพระบรมฉายาลักษณ์ที่หิ้งบูชา ดูแล้วดูเล่า แล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “คล้ายนัก คล้ายนัก ขอรับ” พระเจ้าอยู่หัวจึงตรัสถามว่า “คล้ายนัก คล้ายนัก คล้ายอะไร” เจ็กฮวดบอกว่า คล้ายรูปที่บูชาไว้ พูดแล้วเจ็กฮวดก็เอาผ้าขาวม้าปูกราบพระองค์ท่าน นางผึ้งเห็นลูกชายกราบ ก็กราบตาม พระองค์ตรัสว่า “แน่ใจหรือ” เจ็กฮวดก็ตอบว่า “แน่ใจขอรับ” พระองค์จึงตรัสชมเจ็กฮวดว่า “ฉลาดและตาแหลมดี จะต้องให้เป็นมหาดเล็กเอาไหม” เจ็กฮวดพยักหน้าและกราบทูลว่า “เอาขอรับ” แล้วจึงตรัสสั่งให้กรมพระยาดำรงราชานุภาพเชิญพระราชโองการแต่งตั้งให้เจ๊กฮวด แซ่เล้า เป็นมหาดเล็กของพระองค์แล้วรับสั่งให้เข้าไปเยี่ยมพระองค์ท่านที่บางกอกบ้าง ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านในคลองดำเนินสะดวก จึงเรียก เจ็กฮวด แซ่เล้า ว่า “เจ็กฮวดมหาดเล็ก”

พี่เปี๊ยก หลานเจ๊กฮวด รุ่นที่ 3 ของบ้านหลังนี้ ให้เกียร์ติเป็นวิทยากรนำคณะเราชมพร้อมเล่าประวัติบ้านเจ๊กฮวดอย่างละเอียด 

ถ้วยชาม และกระบะใส่กับข้าวไว้ที่ลูกหลานเก็บรักษาเป็นอย่างดี เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาประวัติศาสตร์ ด้วยความภาคภูมิใจ

อิ่มสิค่ะมาบ้านเจ๊กฮวด อุดหนุนชุมชนกันแก้มตุ่ยทั้งคณะ ไม่เว้นแม่แต่ท่านนายก อิอิ

ติดตามชมการนำชม บ้านเจ๊กฮวดคลิ๊กนี่ เลยจร้าาาๆๆๆๆ

หลังจากได้ชมประวัติศาสตร์กันแบบหอมปากหอมคอ เราก็นั่งเรือต่อไปที่นี่เลย

3. “ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลั๊ก” เพื่อหาอะไรดื่มกันสักหน่อย

คนเยอะซะขนาดนี้ ถ้าป้าจะรอกาแฟสักแก้วคงนาน เลยเดินข้ามคลองไปเที่ยวอีกฝั่ง

เจอแระ ไอติมกะทิของโปรด หอม หวาน ชื่นใจ

ฝั่งนี้ศิลปินเค้าเยอะน่ะ ดูเพลินเลยทีเดียวเชียว

หมดแระ กลับบ้านได้….จำได้ว่าคุณป้าคนนี้ขายประจำอยู่ที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตอนนี้ก็บ่ายแล้ว ของหมด กลับบ้านได้ นี่แหละชีวิตของชุมชนแถวนี้

อิ่มแล้วไปต่อ จุดต่อไป

4. สวนเกษตรแม่ทองหยิบ หนึ่งในสี่จุดท่องเที่ยววิถีคลอง วิถีไทย ตามรอยเสด็จคลองดำเนิน

แปลงนี้ 42 ไร่ ไม่รักจริงทำไม่ได้ขนาดนี้ 

กิจกรรมดีๆ เค้าก็มีสอนให้สำหรับผู้สนใจน่ะค่ะ

มาแล้วค่ะ เรือพายของพวกเรา

เด็กเที่ยวก็ได้ ผู้ใหญ่เที่ยวก็ดีค่ะ

ใครว่ามะนาวแพง พาซื้อที่สวนนี้ได้เลยจ้า โลละ 80 บาท

มะม่วง มะนาว มะพร้าว ส้มโอ ที่นี่มีครบค่ะ

แสงแดดยามบ่ายสาดมาแล้ว แต่พวกเราไม่ร้อนน่ะค่ะ ที่นี่ร่มรื่นมากค่ะ

ลุงกับป้าก็อยากเป็นชาวสวนกับเค้าเหมือนกันน่ะค่ะ

ฟักยังใหญ่ขนาดนี้ คิดดูสิว่า หม้อต้มฟักจะใหญ่ขนาดไหน ฮุฮุ

ท่องเที่ยวชุมชน มีคนชุมชนนำชม สนุกสิค่ะงานนี้ ขอขอบคุณพี่เผือกจากชุมชนวัดโชติฯ ที่คอยมาดูแลพวกเราค่ะ

ยิ้มต้อนรับนักท่องเที่ยวซะขนาดนี้ ไม่มาอีกไม่ได้แล้วค่ะ

หน้าเต็มๆ อันหล่อเหลาของพี่เผือกค่ะ ท่องเที่ยวชุมชนวัดโชติ ท่านใดสนใจท่องเที่ยวแนวนี้ ติดต่อพี่เผือก ชุมชนวัดโชติฯ ได้ที่ facebook/ตลาดน้ำวัดโชติฯ  หรือ   https://www.facebook.com/AmazingDamnoen/

ชมคลิปเบาๆ สวนเกษตรแม่ทองหยิบ ก่อนไปสถานที่จริงได้ที่นี่น่ะจ๊ะ  https://youtu.be/89i4MzWspoQ

ยังค่ะ!…  ของดีของเด็ด ยังมีอีกค่ะ ที่นี้คุณลุงขอเสนอพร้อมรับประกันความพึงพอใจ โดยเฉพาะหนุ่มๆที่เจนเดียวกับคุณลุงค่ะ

5. ศตวรรษสยาม กับ เรื่องราวในอดีต

สถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ของสะสมแห่งใหม่ในราชบุรี ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีต ผ่านสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภค บริโภค หนังสือ ของเล่นต่างๆ เพื่อสร้างความสุข และ อนุรักษ์วิถีความเป็นไทย ทั้งด้านการศึกษา ศิลปะ และความบันเทิงศตวรรษสยาม เรือนไทย ตันยุวรรธนะ ซึ่งมีอายุ 100 ปีกว่า บ้านเรือนไทยแท้ๆ ที่ยกมาจากคลองบางกอกน้อย สถานที่ซึ่งวิถีชีวิตสมัยใหม่ทำให้บ้านเรือนไทยไม่สามารถตั้งอยู่บนทำเลนั้นได้อีกต่อไป

ร้านขายของชำแบบดั้งเดิม บอกเล่าเรื่องราวในอดีตผ่าน สิ่งของเครื่องใช้ ในชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน ผงซักฟอก หรือที่เรียกง่ายๆว่า โชว์ห่วย ซึ่งปัจจุบันลดจำนวนลง เหลือให้เห็นน้อยมาก

ตาลุงก็ตาดี๊ดี ขนาดแอบอยู่ในซอกหลืบ แกยังไปเจอมาได้ ทั้งรูปร่างรูปบน เฮ่อออๆๆๆๆๆ…..555+++

ร้านขายยา (ฝรั่ง-ไทย-จีน) – รวบรวมยา อุปกรณ์การแพทย์ และโฆษณายาในอดีต ปัจจุบันยาในอดีตเป็นของสะสมที่หาได้ยากมาก มีมูลค่าในการสะสมค่อนข้างสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งป้ายโฆษณายาที่มีงานศิลปประกอบสวยๆ

เรือนไทย ตันยุวรรธนะ ซึ่งมีอายุ 100 ปีกว่า รอต้อนรับท่าน สัมผัสกับชีวิตบนบ้านเรือนไทยแท้ๆ ที่ยกมาจากคลองบางกอกน้อย สถานที่ซึ่งวิถีชีวิตสมัยใหม่ทำให้บ้านเรือนไทยไม่สามารถตั้งอยู่บนทำเลนั้นได้อีกต่อไป ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพสวยๆ แต่ละมุม และ สัมผัสกับความคิดในการสร้างบ้านของคนในอดีตในช่วงที่เกิดสงคราม

ศตวรรษสยาม มิวเซียม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในสวน บนเนื้อที่ 9 ไร่ ที่ท่านจะสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตริมฝั่งคลองของชาวราชบุรี ด้วยบรรยากาศภายใต้สวนมะพร้าวที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่ขึ้นชื่อของราชบุรี

ศตวรรษสยาม มิวเซียม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในสวน บนเนื้อที่ 9 ไร่ ที่ท่านจะสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตริมฝั่งคลองของชาวราชบุรี ด้วยบรรยากาศภายใต้สวนมะพร้าวที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่ขึ้นชื่อของราชบุรี

ลึกซึ้งกับ ศตวรรษสยาม ดูนี่ แล้วคุณจะรัก

ข้อมูลเพิ่มเติม ศตวรรษสยาม มิวเซียม

ขอขอบคุณ :

• สทน – สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่จัด คาราวานครั้งที่3 ให้พวกเราได้เที่ยวติดมันส์
• คุณ สรียา บุญมาก ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานราชบุรี  ที่ทำให้พวกเรารู้จัก จ.ราชบุรี อย่างลึกซึ้ง
• ชุมชนตลาดน้ำวัดโชติฯ ที่พาเข้าเข้าถึงชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง
• ดร. นภดล กรณ์ศิลป์ และคุณพอลลี่ ที่สร้างสิ่งสวยงามราคาร้อยล้านอย่างศตวรรษสยาม ให้พวกเราได้สัมผัสอย่างมีความสุข

ภาพโดย – คุณลุง

ขีดๆเขียนๆโดย – คุณลุงกะคุณป้า

เรียบเรียงโดย – คุณป้าล้วนๆ

ยังงงงๆๆๆๆ…ยังไม่จบแค่นี้ค่ะ มีต่อวันที่ 2 ภาค 2 ขากลับกรุงเทพฯ ผ่านนครปฐม ยังมีอะไรดีๆ อีกเยอะจร้าๆๆๆๆ  แล้วพบกันน่ะค่ะ 🙂